Asymmetrical Neck> |
2 ways Trussrod> |
Pinless Bridge> |
Pin Bridge> |
Spilt Saddle> |
Scallopped Bracing "X"> |
Pathelatic Pickup> |
คลิกชมโรงงาน TAKAMINE ประเทศญี่ปุ่น>> |
|
คอกีต้าร์ แบบ Asymmetrical Neck |
2 คอกีต้าร์แบบ Asymmetriacl Neck หรือที่เรียกกันว่า "C Modified Shape" ที่ถูกคิดค้นโดย Takamine โดยจะเป็นรูปตัว C ที่มีความโค้งมลตามรูปลักษณ์ะโค้งลงเพื่อรับกับอุ้งมือ ผู้เล่น
ทำให้ร่นระยะของการเคลื่อนของนิ้วโป้ง ที่จับส่วนคอด้านหลังลง ทำให้ร่นระยะเลาในการจับคอร์ดหรือโซโล่จาก ตำแหน่งสายหนึ่ง ถึงสายหก |
|
|
|
แกนเหล็กฝังคอ 2 ways Trussrod พร้อม Side Beam |
คอกีต้าร์ส่วนสำคัญที่สุดสำหรับการส่งถ่ายกำลังจาก สายลงสู่ลำตัวถึง Soundboard ที่มาของระบบแกนเหล็กขันคอ ที่สมบูรณ์แบบที่ได้จากการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Takamine และ Gotoh Company ในช่วงกลางทศวรรษ 90S
ภาพแรกจากทางด้านซ้าย จะเห็นว่า มีแกนเหล็กขันคออยู่ตรงกลาง พร้อม Side Beam ด้านข้างทั้ง 2 แกนที่ยึดกับส่วน ข้อต่อระหว่างคอ กับลำตัวเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของคอกีต้าร์ และยังเพิ่มความยึดหยุ่นต่อสภาพอากาศ และป้องกันการโก่งงอ ของคอกีต้าร์จากแรงกระแทก
ภาพสองถัดมานั้น จะชี้ให้เห็นถึง คุณลักษณ์ะสำคัญของแกนเหล็ก แบบ Dual Channel นั้นยังสามารถปรับได้สองทาง 2 ways Trussrod ให้โค้งขึ้น Forward Warpage หรือปรับให้โค้งลง แบบ Backward Warpage ทำให้ง่ายต่อการตั้งองศาของคอ |
|
|
|
PINLESS BRIDGE STYLE |
|
PIN BRIDGE STYLE |
BRIDGE ในแบบ PINLESS หนึ่งในนวัตกรรม ที่ใช้การร้อยสายกีต้าร์จากทางด้านหลัง จากใต้บริดจ์ของกีต้าร์ ทำให้สะดวกและง่ายต่อการเปลี่ยนสาย อีกทั้งยังช่วยลดแรงดึง Tension ทำให้เบาแรงกดเมื่อผู้เล่นกดนิ้วลงบนสาย ให้เสียงที่มีความพริ้วไหว และทุ้มอย่างเป็นธรรมชาติ |
BRIDGE ในแบบ PIN BRIDGE ใช้การใส่สายในแบบดั้งเดิม Tradition คือตอกหมุดลงไปที่ตัว BRIDGE กับลำตัวของกีต้าร์ทำให้สายมีความตึง และประโยชน์ที่ได้จากแรงดึง Tension ระหว่างลูกบิดกับสายที่ถูกขึง นี่เองจะได้เสียงในโทนที่มีความยืดหยุ่น และมีมิติเสียงในแนวกว้าง |
|
|
|
SPILT SADDLE (DOUBLE SADDLE) |
SPILT SADDLE สะพานรองสายแบบ แยกอิสระสองชิ้น โดยชิ่นด้านล่างจะรับผิดชอบในส่วนของ สายที่ 1 และสายที่ 2 และ ชิ้นที่ 2 ด้านบนนั้นจะ รับผิดชอบสาย 3 ถึงสาย 6 เพื่อสอดรับกับองศาของสายแต่ละเส้นที่ลากลงมาจาก ลูกบิด ผ่านสะพานคอ
กับผลลัพธ์ที่ได้คือ ความเที่ยงตรงของ INTONATION ในการตั้งเสียงของตัวโน็ตในแต่ละสายมีความเที่ยงตรง ไม่ผิดเพี้ยน
|
|
|
|
SCALLOPPED BRACING PATTERN "X" |
กว่า 150 ปี มาแล้วที่ระบบ Bracing system ได้ถูกนำมาใช้ในกีต้าร์โปร่ง ทาคามิเน๊ะได้เลือกใช้ รูปแบบ Bracing แบบตัว X สำหรับกีต้าร์โปร่งและโปร่งไฟฟ้าสายเหล็ก มากไปกว่านั้น ได้นำเอาประสบการณ์
ที่มากกว่า 50 ปีในการผลิตกีต้าร์มาปรับใช้ในการประดิษฐิ์ เสริมแต่ง โครงสร้าง Bracing ที่เป็นตัวกำหนดการวิ่ง และสะท้อนของเสียง ที่มาจากแรงสั่นสะเทิอนของสาย ให้เสียงที่ออกมานั้นเป็นเอกลักษณ์ะ ไม่ว่าจะเป็นกำลังเสียง โทนเสียง เพื่อความสมดุล เหมาะกับประโยชน์ที่นักกีต้าร์ ต้องการ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจำแนกไปตามลักษณะ ของทรงกีต้าร์ดังต่อไปนี้ |
|
|
|
|
PALATHETIC PICKUP SYSTEM |
|
ภาพโครงร่างด้านซ้าย ของ Palathetic pickup ซึ่งมีความแตกต่างจาก Pre-amp ทั่วๆไปที่ใช้แผ่น film ในการแปลงสัญญาณ เอกสิทธิ์เฉพาะของ ทาคามิเน๊ะ ด้วยความสมบูรณ์แบบ และแม่นยำ ให้เสียงอย่างธรรมชาติ ที่ถูกถ่ายทอดลงมา ด้วยเอกลักษณ์และเทคโนโลยี เฉพาะของทาคามิเน๊ะกับ ระบบ piezo-electric transducers 6ผลึก อิสระที่ถูกฝังติดตั้งลงใต้ Bridge Saddle (สะพานรองสาย) ในเพื่อรับแรงสั่นสะเทือนในแต่ละสายกีต้าร์ และยังลดเสียง Feedback ให้ลดลงได้อย่างมากซึ่งส่วนประกอบเหล่านี้ได้ถูกคิดค้นมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 70 จวบจนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้ถูกพิสูจน์จากนักดนตรีทั่วโลกแล้วว่าระบบ Pathelatic Pickup ของกีต้าร์ทาคามิเน๊ะ เป็นระบบปิ๊กอัพที่ให้ความแม่นยำในการส่งสัญญานเสียง ได้อย่างเที่ยงตรงและเป็นธรรมชาติ
|
|
นวัตกรรมของทาคามิเน๊ะ ในการออกแบบ ที่เสียบแจ็คแบบ ALL IN ONE มีตัวล็อคป้องกันการ โยกของสายแจ็คในตัวอยู่ในชิ้นเดียวกัน |
|
คลิกชมโรงงาน TAKAMINE ประเทศญี่ปุ่น>> |
Asymmetrical Neck> |
2 ways Trussrod> |
Pinless Bridge> |
Pin Bridge> |
Spilt Saddle> |
Scallopped Bracing "X"> |
Pathelatic Pickup> |